ศุภาลัยรุกตลาดอสังหาฯ ชลบุรี ผุด 2 โครงการใหม่ตอบรับดีมานด์พุ่ง
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออก ด้วยการเปิดตัว 2 โครงการใหม่ในจังหวัดชลบุรี มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่และตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2 โครงการใหม่ในทำเลศักยภาพ
การเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสองแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด
- โครงการศุภาลัย พรีมา วิลล่า บางแสน (Supalai Prima Villa Bangsaen): เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับหรู มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านพักตากอากาศหรือบ้านหลังที่สองในทำเลที่มีศักยภาพ
- โครงการศุภาลัย พาร์ควิลล์ อมตะ-หนองข้างคอก (Supalai Park Ville Amata-Nongkhangkhok): โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคตะวันออก ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ทำงานในพื้นที่และมองหาที่อยู่อาศัยที่เดินทางสะดวก
ปัจจัยหนุนการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ชลบุรี
การตัดสินใจของศุภาลัยในการขยายการลงทุนในจังหวัดชลบุรี มาจากหลายปัจจัยที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกของตลาด
- การขยายตัวของเศรษฐกิจ: ชลบุรีเป็นหนึ่งในจังหวัดศูนย์กลางของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้มีการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มกำลังซื้อ
- การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว: อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในชลบุรีกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการที่พักอาศัยทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพิ่มขึ้น
- โครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน: การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนมอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง และสนามบินอู่ตะเภา ทำให้การเดินทางและการขนส่งสะดวกขึ้น
แนวโน้มในอนาคต
ผู้บริหารของศุภาลัยมองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการคุณภาพในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีประวัติการเติบโตที่ยาวนานและแข็งแกร่ง
จุดเริ่มต้นและเส้นทางสู่บริษัทมหาชน
ศุภาลัย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2532 โดยเริ่มต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ และเพียง 3 ปีหลังจากก่อตั้ง ในปี พ.ศ. 2535 บริษัทก็สามารถแปรสภาพเป็น บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและศักยภาพที่ได้รับการยอมรับจากตลาดทุน
ชื่อ “ศุภาลัย” มาจากการรวมคำในภาษาสันสกฤตระหว่างคำว่า “ศุภ” ที่แปลว่า ความดีงาม, ความเจริญ และคำว่า “อาลัย” ที่แปลว่า ที่อยู่หรือที่พักอาศัย ซึ่งรวมกันมีความหมายว่า “สถานที่อยู่อันเป็นมงคล” สะท้อนถึงปรัชญาของบริษัทในการสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและเป็นมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย
การขยายธุรกิจและแบรนด์ที่หลากหลาย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศุภาลัยได้ขยายการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกระดับ
- ที่อยู่อาศัย: พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ เช่น บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ที่แตกต่างกัน เช่น Supalai, Supalai Prima Villa และ Supalai Riva Grande เป็นต้น
- อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์: นอกจากที่อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่า เช่น อาคารศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่
- การขยายสู่ตลาดต่างประเทศ: ศุภาลัยได้ขยายการลงทุนไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ในการเติบโตในระดับสากล
ความสำเร็จและรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
ศุภาลัยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้ได้รับรางวัลและการยอมรับมากมายอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านคุณภาพของโครงการและการบริหารจัดการองค์กร
- รางวัลด้านคุณภาพ: ได้รับรางวัลด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจากหลากหลายเวที เช่น FIABCI-Thai Prix D’ Excellence Awards และรางวัล BCI Asia Awards ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับบริษัทอสังหาฯ ที่ยอดเยี่ยมในเอเชีย
- รางวัลด้านความยั่งยืน: ได้รับการจัดอันดับเป็น “หุ้นยั่งยืน” (Thailand Sustainability Investment) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และรางวัลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำธุรกิจที่ไม่เพียงแต่สร้างผลกำไร แต่ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน selfmatters
