July 30, 2025
ภูกระดึง สัมผัสความงามที่คุ้มค่ากับหยาดเหงื่อทุกหยด

ภูกระดึง สัมผัสความงามที่คุ้มค่ากับหยาดเหงื่อทุกหยด

สำหรับนักเดินทางสายธรรมชาติและผู้ที่หลงใหลการผจญภัย ชื่อของ “ภูกระดึง” ย่อมติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของจุดหมายในฝันเสมอ อุทยานแห่งชาติ  จังหวัดเลย ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป แต่คือบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ รางวัลที่ได้รับคือความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่หาได้ยากยิ่ง ซึ่งทำให้หยาดเหงื่อทุกหยดที่เสียไประหว่างการเดินทางนั้นคุ้มค่าอย่างที่สุด

พิชิตยอด ด้วยการเดินทางที่ท้าทายแต่ทรงคุณค่า

ภูกระดึง

การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาไม่ได้ง่ายดายนัก โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวจะต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและจำนวนจุดพัก ซึ่งเส้นทางจะแบ่งเป็นสองช่วงหลักๆ:

  1. จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน (ข้างล่าง) ถึง ซำแฮก: จุดเริ่มต้นของการเดินทางที่หลายคนเรียกว่า “การเริ่มต้นของความท้าทาย” เส้นทางช่วงแรกนี้จะค่อนข้างชันและเหนื่อย แต่ก็มี “ซำ” หรือจุดพักเป็นระยะๆ เช่น ซำแฮก, ซำบอน, ซำกกกอก, ซำกอซาง, ซำกกหว้า, และซำแคร่ ซึ่งแต่ละซำจะมีร้านค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม และห้องน้ำไว้บริการ เพื่อเติมพลังและพักเหนื่อย
  2. จากซำแคร่ ถึงหลังแป: นี่คือช่วงที่ชันที่สุดและท้าทายที่สุด “หลังแป” คือจุดสิ้นสุดของการไต่ความชัน เป็นด่านแรกของยอด ที่ราบ จากจุดนี้จะต้องเดินต่ออีกประมาณ 2-3 กิโลเมตรเพื่อไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งเป็นจุดตั้งแคมป์หลักบนยอดภู

แม้จะเป็นการเดินทางที่ต้องใช้พลังงานและอดทน แต่ระหว่างทาง คุณจะได้สัมผัสกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เสียงนกร้อง และอากาศบริสุทธิ์ เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน

ภูกระดึง

กิจกรรมและจุดท่องเที่ยวบนยอดเขา

เมื่อขึ้นมาถึงยอดภูกระดึงแล้ว ความเหนื่อยล้าจะถูกแทนที่ด้วยความตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติอันกว้างใหญ่บนพื้นที่ราบกว่า 60 ตารางกิโลเมตร ที่นี่มีเส้นทางเดินเท้าและจุดท่องเที่ยวมากมายให้สำรวจ:

  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาหมากดูกและผานกแอ่น: เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามและได้รับความนิยมมากที่สุด คุณจะได้เห็นแสงแรกของวันสาดส่องลงมายังทะเลหมอกและทิวเขาเบื้องล่าง สร้างทัศนียภาพที่งดงามเกินบรรยาย
  • ชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก: สัญลักษณ์  เป็นจุดที่โด่งดังที่สุดสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดิน โดยเฉพาะภาพของต้นสนที่ยืนตระหง่านอยู่ริมหน้าผา ถือเป็นมุมมหาชนที่ใครมา ก็ต้องมาถ่ายรูป
  • น้ำตกบนภู กระดึง: แม้บนยอดภูจะเป็นที่ราบ แต่ก็มีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกวังกวาง, น้ำตกเพ็ญพบ, น้ำตกโผนพบ, น้ำตกถ้ำใหญ่ และน้ำตกธารสวรรค์ โดยส่วนใหญ่เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความร่มรื่นและเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ
  • เดินป่าศึกษาธรรมชาติ: มีเส้นทางเดินป่ารอบภูให้เลือกหลายเส้นทาง คุณจะได้พบกับความหลากหลายทางชีวภาพของพืชพรรณ สัตว์ป่า และสัมผัสกับระบบนิเวศที่สมบูรณ์
  • ต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสี: ในช่วงฤดูหนาว (ประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม) หากโชคดี คุณอาจได้เห็นต้นเมเปิ้ลบางส่วนเปลี่ยนเป็นสีแดงสด สร้างทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด

ภูกระดึง

การเตรียมตัวและข้อควรรู้ก่อนไป 

เปิดให้เข้าชมในช่วง 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม ของทุกปี และจะปิดในช่วงฤดูฝน (1 มิถุนายน – 30 กันยายน) เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและป้องกันอันตรายจากฝนตกหนัก

  • สภาพร่างกาย: ควรออกกำลังกายเตรียมความพร้อมของร่างกายล่วงหน้า เพราะการเดินขึ้นและเดินสำรวจบนภูต้องใช้พละกำลังมาก
  • สัมภาระ: ควรจัดกระเป๋าให้เบาที่สุด เพราะคุณต้องแบกขึ้นเอง หรือใช้บริการลูกหาบ (มีค่าใช้จ่ายตามน้ำหนัก)
  • เสื้อผ้าและอุปกรณ์:
    • เสื้อกันหนาว (อากาศบนภูเย็นสบายตลอดทั้งปี และหนาวจัดในฤดูหนาว)
    • รองเท้าเดินป่า หรือรองเท้าผ้าใบที่กระชับและพื้นไม่ลื่น
    • ไฟฉาย (จำเป็นมากสำหรับการเดินในที่มืด)
    • ยาสามัญประจำบ้าน ยาคลายกล้ามเนื้อ
    • อุปกรณ์กันแดด กันฝน
  • การจองที่พัก: แนะนำให้จองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว สามารถจองเต็นท์หรือบ้านพักของอุทยานฯ ได้
  • การศึกษาเส้นทาง: ศึกษาเส้นทางและจุดท่องเที่ยวต่างๆ ล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางและกิจกรรมบนภู

มากกว่าการท่องเที่ยว คือประสบการณ์ชีวิต

ภูกระดึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นโรงเรียนธรรมชาติที่สอนให้เราได้เรียนรู้ถึงความอดทน ความพยายาม และการเห็นคุณค่าของธรรมชาติ เมื่อคุณก้าวเท้าลงจากภู กระดึง คุณจะไม่ได้กลับไปแค่ความทรงจำดีๆ แต่ยังรวมถึงความภาคภูมิใจในตัวเอง และเรื่องราวการผจญภัยที่สามารถบอกเล่าได้อย่างไม่รู้จบ

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ท้าทายและคุ้มค่า คือหนึ่งในตัวเลือกที่ห้ามพลาด และรับรองว่าความงามที่รออยู่บนนั้นจะทำให้คุณอยากกลับไปเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน selfmatters