โอลลี วัตกินส์ กองหน้าตัวเก่งของแอสตัน วิลลา กำลังตกเป็นข่าวใหญ่ในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีรายงานว่าหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกให้ความสนใจดึงตัวเขาไปร่วมทีม หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่มีข่าวพัวพันกับวัตกินส์อย่างหนัก มีรายงานว่า “ปีศาจแดง” ได้เริ่มการพูดคุยเบื้องต้นกับแอสตัน วิลลาแล้ว แม้ว่าทางวิลลาจะตั้งค่าตัวไว้สูงถึง 60 ล้านปอนด์ ซึ่งแมนฯ ยูไนเต็ดมองว่าสูงเกินไปสำหรับนักเตะวัย 29 ปี อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ดอาจพิจารณาดึงตัววัตกินส์ไปร่วมทีม หากราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งของทีมมีโอกาสย้ายออกจากสโมสร
นอกจากนี้ อาร์เซนอล ก็เคยตกเป็นข่าวกับวัตกินส์เช่นกัน โดยมีรายงานว่า “ปืนใหญ่” เคยยื่นข้อเสนอเพื่อคว้าตัวเขาไปร่วมทีม แต่ถูกแอสตัน วิลลาปฏิเสธไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลยังคงพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ ในแนวรุก รวมถึงวัตกินส์ด้วย
วัตกินส์เองได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับแอสตัน วิลลาเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2028 อย่างไรก็ตาม ฟอร์มการทำประตูที่สม่ำเสมอของเขาในฤดูกาลที่ผ่านมา (17 ประตู 14 แอสซิสต์) ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของหลายสโมสร
โอลลี วัตกินส์ ดาวยิงผู้ก้าวจากลีกทูสู่เวทีพรีเมียร์ลีกและทีมชาติอังกฤษ
โอลิเวอร์ จอร์จ อาร์เธอร์ วัตกินส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ วัตกินส์ (Ollie Watkins) เกิดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1995 ที่เมืองทอร์คีย์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในกองหน้าตัวหลักของแอสตัน วิลลา และทีมชาติอังกฤษ ด้วยความสามารถรอบด้านในการจบสกอร์ ความเร็ว และการเคลื่อนที่ ทำให้เขากลายเป็นที่ยอมรับในวงการฟุตบอลอังกฤษ
เส้นทางเริ่มต้นกับเอ็กเซเตอร์ ซิตี้
วัตกินส์เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับสโมสร เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ ในลีกทู (ดิวิชั่น 4 ของอังกฤษ) ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาเป็นเด็กปั้นมาตั้งแต่เยาวชน เขาแสดงแววโดดเด่นตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยยิงไปถึง 30 ประตูให้กับทีม U-18 ซึ่งนำไปสู่การได้รับสัญญาอาชีพและโอกาสในการประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2013-14
แม้จะใช้เวลาช่วงแรกในการปรับตัวและถูกปล่อยยืมตัวไปหาประสบการณ์กับสโมสรเวสตัน ซูเปอร์แมร์ (Weston-super-Mare A.F.C.) ในปี 2014-2015 แต่เขาก็กลับมาสร้างชื่อเสียงให้กับเอ็กเซเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างเต็มตัวในช่วงฤดูกาล 2016-17 ด้วยผลงานการยิงประตูที่โดดเด่น ทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ EFL (EFL Young Player of the Year)
แจ้งเกิดเต็มตัวกับเบรนท์ฟอร์ด
ด้วยฟอร์มอันร้อนแรง ทำให้ เบรนท์ฟอร์ด ทีมในเดอะแชมเปี้ยนชิพ คว้าตัววัตกินส์ไปร่วมทีมในปี 2017 ด้วยค่าตัวประมาณ 1.8 ล้านปอนด์ ที่กริฟฟิน พาร์ค (สนามเหย้าของเบรนท์ฟอร์ดในขณะนั้น) วัตกินส์พัฒนาฝีเท้าขึ้นอย่างก้าวกระโดด เขากลายเป็นกองหน้าตัวหลักที่ผลิตสกอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยยิงไปถึง 45 ประตูจากการลงสนามมากกว่า 130 นัดตลอดสามฤดูกาลกับสโมสรเบรนท์ฟอร์ด ความสามารถในการเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก ทั้งกองหน้าตัวเป้าและปีก ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของหลายสโมสรในพรีเมียร์ลีก
ก้าวสู่พรีเมียร์ลีกกับแอสตัน วิลลา
ในปี 2020 แอสตัน วิลลา ตัดสินใจทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรในขณะนั้น (ประมาณ 28 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มเป็น 33 ล้านปอนด์พร้อมแอดออน) เพื่อคว้าตัวโอล ลี วัตกินส์ มาร่วมทีมภายใต้การคุมทีมของดีน สมิธ ซึ่งเป็นอดีตกุนซือของเบรนท์ฟอร์ดที่รู้จักศักยภาพของวัตกินส์เป็นอย่างดี
การย้ายมาสู่พรีเมียร์ลีกไม่ได้ทำให้ฟอร์มของวัตกินส์ดร็อปลงเลย เขายังคงรักษามาตรฐานการทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นหัวหอกตัวความหวังของ “สิงห์ผงาด” มาโดยตลอด โดยเฉพาะในฤดูกาล 2023-24 ที่เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยการยิง 19 ประตู และ 13 แอสซิสต์ในลีก ช่วยให้แอสตัน วิลลา สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
ติดทีมชาติอังกฤษ
ด้วยฟอร์มอันสม่ำเสมอในระดับสโมสร ทำให้ โอลลี วัตกินส์ ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2021 และประเดิมสนามในเกมกับซานมาริโน่ ซึ่งเขาสามารถยิงประตูได้ทันทีในการลงสนามนัดแรก ปัจจุบันเขากลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญในแนวรุกของทีมชาติอังกฤษ และเป็นที่คาดการณ์ว่าจะได้มีบทบาทสำคัญในรายการสำคัญต่างๆ ของทีมชาติในอนาคต
โอลลี วัตกินส์ คือตัวอย่างของนักฟุตบอลที่สร้างชื่อขึ้นมาจากการทำงานหนักและความมุ่งมั่น จากการเริ่มต้นในลีกระดับล่างสุดของอังกฤษ สู่การเป็นกองหน้าระดับแนวหน้าในพรีเมียร์ลีกและทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักฟุตบอลรุ่นใหม่ได้อย่างดี
สถานการณ์ของ วัตกินส์ ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะนี้จึงน่าจับตาอย่างยิ่ง ว่าเขาจะได้ย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ตามข่าวลือหรือไม่ หรือจะยังคงเป็นกำลังสำคัญของแอสตัน วิลลาต่อไป selfmatters